ที่เที่ยวลำพูน ตะลุยเมืองรอง ไหว้พระทำบุญ สัมผัสธรรมชาติฟินๆ

2 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

1. แก่งก้อ

เริ่มต้นทริปด้วย แก่งก้อ ทะเลสาบวิวสวย เงียบสงบในเขต อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ซึ่งเกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนภูมิพลฯ ทำให้น้ำจากลำห้วยแม่ก้อที่บรรจบกับแม่น้ำปิงไหลลงมาสู่พื้นที่แห่งนี้จนเกิดเป็นทะเลสาบวิวสุดอลังค่ะ นอกจากนั่งเล่น ถ่ายรูป ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติกแล้ว พวกเรายังสามารถล่องเรือไปตามทะเลสาบ ชมวิวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน เช่น น้ำตกกอมเป เกาะคู่สร้างคู่สม ผาพระนอน พระธาตุสร้อย และอื่นๆ อีกมากมาย รับรองว่าต้องถูกใจสายชิลอย่างแน่นอนค่ะ

2. ทุ่งกิ๊ก

ไปต่อกันที่ ทุ่งกิ๊ก พื้นที่สำหรับคนรักการแคมป์ปิ้งและส่องนกในทุ่งหญ้ากว้าง เป็นอีกสถานที่ยอดฮิตในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิงที่ผู้คนนิยมมากางเต้นท์ สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ฤดูที่เหมาะแก่การมาเที่ยวและพักผ่อนที่ ทุ่งกิ๊ก คือช่วงหน้าแล้ง ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เพิ่มสีสันสดใสให้แก่ทุ่งหญ้าเขียวขจี บรรยากาศดีสุดๆ ไปเลยค่ะ

3. จุดชมวิวผาแดงหลวง

หากอยากชมวิวสวยสุดอันซีน เตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม และไปพิชิต ผาแดงหลวง ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงกันเถอะ ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย โดยเฉพาะยามที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่พ้นจากทิวเขา เกิดเป็นแสงจางๆ และส่องสว่างขึ้นตามลำดับ ยิ่งบวกกับทะเลหมอกในฤดูหนาวก็ยิ่งเป็นภาพที่งดงามสุดจะบรรยายเลยค่ะ

4. น้ำตกก้อหลวง

ถ้าพูดถึงน้ำตกที่สวยงามมากๆ ในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ก็ต้องเป็น น้ำตกก้อหลวง เลยค่ะ น้ำสีฟ้ามรกตที่เราเห็นกันอยู่นั้น เกิดจากการที่น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกหินปูน จึงทำให้น้ำใสสะอาด สีสวย ยิ่งเมื่อบวกกับสายน้ำที่ไหลรินลงมาจากผาหินปูนที่มีความสูงถึง 20 เมตร ก็ยิ่งทำให้ภาพตรงหน้าสวยอลังการ และสดชื่นมากๆ ค่ะ

5. สะพานทาชมภู

ใครมาเที่ยวลำพูนแล้วไม่แวะ สะพานทาชมภู ก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะที่นี่เป็นทั้งสะพานประวัติศาสตร์ และเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่ใครๆ ก็ต้องมาเช็คอิน แม้ว่าจะเป็นเพียงสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2461 แต่สะพานแห่งนี้ก็ยังมีความคงทนแข็งแรง และยังสามารถใช้งานเป็นทางรถไฟได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ แถมดีไซน์สุดคลาสสิกของสถาปัตยกรรมตะวันตกก็ยังเข้ากับบรรยากาศของขุนเขาและสายน้ำได้เป็นอย่างดี ทำให้ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์คของลำพูนเลยทีเดียว

6. วัดสันป่ายางหลวง

วัดสันป่ายางหลวง หนึ่งในวัดเก่าแก่ของลำพูน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1074 เป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิธาตุของ พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลาน พระสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยอายุที่ยาวนานกว่าพันปี ทำให้ วัดสันป่ายางหลวง ต้องผ่านพ้นหลายยุคหลายสมัย สถาปัตยกรรมของที่นี่จึงได้รับอิทธิพลมาจากหลากหลายวัฒนธรรม แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือศิลปะแบบหริภุญชัยอย่าง พระวิหารพระโขงเขียว หรือ พระวิหารพุทธรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย ที่มีรูปแกะสลักปูนปั้นที่วิจิตรงดงามประดับตกแต่งทั้งด้านใน และด้านนอกของพระวิหาร ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดลำพูนที่ควรไปสักการะสักครั้งค่ะ

7. วัดพระพุทธบาทตากผ้า

วัดพระพุทธบาทตากผ้า ตั้งอยู่ระหว่างดอยม่อนช้างและดอยเครือ เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อจังหวัดลำพูนเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นจุดศูนย์กลางในการศึกษาพระปริยัติธรรมและการปฏิบัติธรรมแล้ว ยังเชื่อว่ามีรอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และรอยตากผ้าจีวรของพระองค์ที่ผาหิน ซึ่งเป็นบริเวณของ วัดพระพุทธบาทตากผ้า ในปัจจุบันอีกด้วย จึงทำให้มีพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศเข้ามากราบไหว้ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาเป็นเวลาช้านาน

8. วัดจามเทวี

วัดจามเทวี หรือ วัดกู่กุด เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดลำพูน เพราะเป็นวัดที่ พระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ พระราชโอรสของพระนางจามเทวีทรงโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพริงให้แก่พระมารดา ส่วนที่สำคัญที่ในสุดในวัดนี้ก็คือ พระเจดีย์จามเทวี พระเจดีย์ทรงเหลี่ยมแบบ พระพุทธคยา ประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประทานพร รวมทั้งหมด 60 องค์ เป็นพระเจดีย์ยุคแรกๆ ในล้านนาไทย อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของ พระเจดีย์เหลี่ยม ที่จังหวัดเชียงใหม่อีกด้วยค่ะ

9. อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

หลังจากไปกราบ พระเจดีย์จามเทวี แล้ว ก็ไปสักการะ อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี เพื่อระลึกถึงองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัยที่เขตเทศบาลเมืองลำพูนกันค่ะ นอกจากทรงเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรมและนักรบที่กล้าหาญแล้ว พระนางยังเป็นผู้นำพุทธศาสนาและศิลปะวัฒนธรรมมาเผยแพร่ยังดินแดนล้านนาแห่งนี้ด้วย ส่วนมากแล้วผู้คนที่ไปกราบไหว้ อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี จะซื้อโคมมาเขียนคำอธิฐานและนำไปถวายบูชาที่ตรงหน้าลานอนุสาวรีย์เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตค่ะ

10. สถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย

สำหรับใครที่หลงเสน่ห์ผ้าไทย แนะนำให้มาที่ สถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย เลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นสถานที่อนุรักษ์วัฒนธรรมการทอผ้าของจังหวัดลำพูนที่สืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เนื่องด้วยลำพูนเป็นพื้นที่ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในดินแดนล้านนา และเป็นจังหวัดที่มีกลุ่มคนจากหลากหลายชาติพันธุ์อาศัยอยู่ ได้แก่ ชาวยวน โยนก ไทใหญ่ เขิน มอญ ยางแดง ลื้อ และ ลั้วะ แต่ละชนิดของผ้ารวมถึงลวดลายจึงบ่งบอกถึงเสน่ห์ของวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป ถือเป็นงานฝีมือที่มีคุณค่าและหาชมไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว

11. พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนเมืองลำพูนที่ พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของชาวลำพูนในสมัยก่อนมาจัดแสดงในบ้านไม้โบราณ อายุยาวนานกว่า 100 ปี ทุกคนสามารถเข้าชมและศึกษาเรื่องราวต่างๆ ด้วยตนเอง หรือสามารถให้วิทยกรมาแนะนำและพาชมได้ค่ะ

12. วัดพระธาตุหริภุญชัย

ไปไหว้พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำพูนที่ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 1651 ในสมัย พระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์ราชวงศ์จามเทวีวงศ์องค์ที่ 32 แห่งอาณาจักรหริภุญชัย ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของ พระธาตุหริภุญชัย พระธาตุประจำปีเกิดปีระกา ภายในบรรจุ พระบรมเกศาธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ในโกศทองคำ โดยองค์เจดีย์พระธาตุนั้นสร้างด้วยศิลปะแบบล้านนาไทยแท้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับ พระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ที่ วัดพระธาตุหริภุญชัย ยังมีการจัด งานโคมแสนดวง ที่จะมีการประดับโคมล้านนาหลากสีอย่างสวยงามให้พวกเราได้เห็นกันใน วันลอยกระทง ของทุกปีด้วยค่ะ

13. วัดพระยืน

วัดพระยืน หรือ วัดอริญญิการาม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ แม่น้ำกวง อำเภอเมืองลำพูน ตามตำนานเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1912 พญากือนา ทรงอาราธนานิมนต์ พระสุมนเถระ จากเมืองสุโขทัยมายังเชียงใหม่ ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้เข้าพักที่ วัดพระยืน ในเมืองหริภุญชัย ในยามนั้นก็ได้มีพระยืนประดิษฐานอยู่ก่อนแล้ว 1 องค์ หลังจากนั้นพระสุมณะเถระกับพญากือนาก็ได้สร้างพระยืนขึ้นอีก 3 องค์ประดิษฐานไว้ภายในวัด ผ่านไปหลายร้อยปีก็ได้มีการบูรณะ วัดพระยืน ขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2472 ซึ่งชื่อของ วัดพระยืน ก็มาจากองค์พระพุทธรูปยืนสีทองอร่ามเด่นสง่าอยู่กลางวัดนั่นเองค่ะ

14. วัดมหาวัน

วัดมหาวัน หรือ วัดมหาวันวนาราม อีกหนึ่งวัดเก่าแก่แห่งลำพูนที่มีอายุยาวนานถึง 1,300 ปี ในอดีตเป็นอารามหลวงในสมัยพระนางจามเทวี และเป็นที่ประดิษฐาน เจดีย์วัดมหาวัน ซึ่งบรรจุ พระรอดลำพูน หนึ่งใน 5 พระเครื่องชุดเบญจภาคีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เชื่อกันว่า พระรอด องค์นี้มีความสักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีและคุ้มครองผู้ที่ไปกราบไหว้บูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายและความวิบัติต่างๆ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม รวมถึงให้โชคลาภอีกด้วย สมัยก่อนที่นี่เป็นที่ปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชน และเหล่าทหารที่ต้องสู้รบในยามศึก ในปัจจุบันก็ยังเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านทั่วไปเช่นเดิมค่ะ

15. วัดพระพุทธผาหนาม

ขึ้นไปชมวิวสวยบนยอดเขา และไหว้พระที่ วัดพระพุทธบาทผาหนาม วัดสวยที่มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี เดิมเคยเป็นวัดร้างบนเนินเขา แต่ด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้าน จึงร่วมใจกันบูรณะและพัฒนาวัดแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ให้สวยงาม ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐาน รูปปูนปั้นของครูบาอภิชัยขาวปี พระธาตุทอง พระธาตุขาว และ รอยพระพุทธบาทผาหนาม ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ค่ะ พอไหว้พระเสร็จก็ขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา ทุกคนสามารถเลือกเดินขึ้นบันไดนาคหรือขับรถขึ้นไปตรงทางข้างวัดก็ได้ค่ะ

16. วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

กราบไหว้สักการะ อนุสาวรีย์พระครูบาชัยวงศา ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านท้องถิ่นที่ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ ภายในเป็นที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทห้วยต้ม และ พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย เจดีย์สีทองอร่ามที่จำลองมาจาก เจดีย์ชเวดากอง ประเทศเมียนมา รายล้อมไปด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ ทั้งหมด 16 องค์ ซึ่งเจดีย์องค์ได้สร้างขึ้นเพื่อน้อมกล้าวถวายเป็นพระราชกุศลให้แก่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีค่ะ

17. อุโมงค์ขุนตาน

ถ่ายรูปชิคๆ ที่ อุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านที่ยาวที่สุดในประเทศไทยที่มีความยาวถึง 1,352.10 เมตร อีกทั้งยังเป็นสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่สูงที่ในจุดที่สุดในประเทศไทยด้วยความสูง 578 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ซึ่งสามารถพาขึ้นไปถึง ดอยขุนตาล เลยค่ะ จุดเด่นของอุโมงค์อยู่ที่ปากทางเข้าที่ก่อด้วยอิฐสีแดง ตัดกับสีเขียวของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ใครที่มีโอกาสมาที่สถานที่รถไฟแห่งนี้ก็ต้องถ่ายรูปสวยๆ ให้คุ้มหน่อยค่ะ

18. อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล

หลังจากเที่ยวชมอุโมงค์ขุนตานเสร็จก็มาเที่ยวต่อใน อุทยานแห่งชาติขุนตาล ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางคมนาคมทางรถไฟลำพูน-ลำปางกันค่ะ ด้วยพื้นที่กว่า 159,556.25 ไร่ ที่นี่จึงเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด อีกทั้งยังเป็นป่าต้นน้ำลำธารอีกด้วย ใครที่อยากมานอนกางเต็นท์ ชมวิวสวยๆ ในยามเช้า ภายในอุทยานฯ ก็มีบริการจุดกางเต็นท์ด้วยเช่นกันค่ะ