กาญจนบุรี จังหวัดที่มีที่เที่ยวเยอะแยะมากมาย เที่ยวได้ทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว ก็ชิลได้ไม่มีคำว่า "เบื่อ" แน่นอน อีกทั้งยังเป็น ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ขับรถแป๊ปเดียวถึงอีกด้วยค่ะ วันนี้เราขอพาไปเช็คลิสต อัปเดต 35 ที่เที่ยวกาญจนบุรี 2023 เช็คอินเที่ยวฟินพร้อมๆ กัน บอกเลยว่า โดน !
ที่เที่ยวประวัติศาสตร์ในกาญจนบุรี
1. ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ
ถ้ำกระแซ ที่นี่เป็นจุดชมแม่น้ำแควที่เรียกว่าวิวดีที่สุดในเมืองกาญจนบุรีที่เราเรียกกันว่า ทางรถไฟสายมรณะ ค่ะ ถือว่าเป็นจุดที่สวยที่สุด และอันตรายที่สุดของเส้นทางรถไฟ ด้วยความสูงมากๆ และติดเลียบหน้าผาทำให้เสียวสันหลังเล็กๆ มองลงไปด้านล่างทำเอาเข่าเกือบทรุดเลยทีเดียว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปถ่ายรูปเล่นได้บนรางรถไฟแต่ก็ต้องคอยระวังในการเดิน และระวังรถไฟด้วยค่ะ เพราะที่แห่งนี้ยังเปิดให้รถไฟวิ่งได้ตามปกติ ถัดมาจะเป็นถ้ำ ซึ่งเคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า และภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ด้วย
2. สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว แลนด์มาร์คแรกๆ ที่ทำให้เราคิดถึงเมืองกาญจน์ ตรงที่แห่งนี้เป็นจุดเชื่อมโยงของประวัติศาสตร์โลกในหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นอนุสรณ์สงครามมหาเอเชียบูรพา ค่ะ
ไฮไลท์ในการมาเที่ยวที่นี่ก็คือ การได้มาเดินบนรางรถไฟบนสะพานข้ามแม่น้ำแควซึ่งมีระยะทาง 300 เมตร ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนรางรถไฟ ชมความงามของสองฝากฝั่งแม่น้ำแควได้ แต่ต้องระวังสัญญาณหากทีรถไฟผ่านมาด้วยค่ะ
3. โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี
โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี แห่งนี้ ดูเผินๆ ภายนอกนั้นเหมือนโรงกระดาษเก่าที่ปล่อยทิ้งร้าง แต่ตอนนี้ โรงกระดาษได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยโครงการอนุรักษ์สถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ให้แก่คนรุ่นหลัง และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดกาญจนบุรีนั่นเองค่ะ
โรงงานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระยาพหลพลพยุหเสนา ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นโรงงานกระดาษแห่งที่ 2 ของประเทศไทยที่มีความทันสมัยที่สุดในขณะนั้นซึ่งผลิตกระดาษและธนบัตรใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสวยงาม ตัวอาคารโรงงานเป็นทรงยุโรปสมัยกลาง ซึ่งสร้างโดยช่างชาวเยอรมันค่ะ
อีกทั้งยังเป็นจุดที่มีมุมสวยๆ แบบวินเทจ แปลกตา ทำให้มีนักท่องเที่ยวสายถ่ายรูปแวะมาถ่ายรูปสวยๆ เก๋ๆ กันอีกด้วยค่ะ และในอนาคตที่นี่จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่สาธารณะ เป็นปอดแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรีนั่นเอง
4. ด่านเจดีย์สามองค์
ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนตะวันตกของประเทศไทย กั้นพรมแดนระหว่างไทยและเมียนมาค่ะ ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นที่แห่งนี้เคยเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญในการทำสงครามไทย–พม่า ในประวัติศาสตร์อีกด้วย
บริเวณด่านเจดีย์สามองค์นั้นจะมีจุดในเลือกซื้อสินค้าราคาถูกเป็นของฝากของที่ระลึก รวมถึงเป็นจุดที่เราสามารถยื่นเรื่องของผ่านแดนข้ามไปเที่ยววัดสวยๆ ฝั่งเมียนมาได้อีกหลายแห่งเลยค่ะ เช่น วัดเสาร้อยต้น วัดเจดีย์ทอง รวมไปถึง ตลาดพญาตองซู ได้ค่ะ แต่ต้องกลับมาฝั่งไทยเราไม่เกิน 18.00 น.
5. ปราสาทเมืองสิงห์
ที่เที่ยวกาญจนบุรี 2565 ปราสาทเมืองสิงห์
นอกจากที่กาญจนบุรีมีที่เที่ยวแนวประวัติศาสตร์หลากหลายที่แล้ว ยังมีศิลปะยุคโบราณอย่างปราสาทหินอีกด้วย ปราสาทเมืองสิงห์ นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา นิกายมหายาน ซึ่งมีสถาปัตยกรรม และปฏิมากรรม คล้ายคลึงกับของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์นักสร้างปราสาทแห่งขอมนั่นเองค่ะ
6. อนุสรณ์สถาน พิพิธภัณฑ์ ช่องเขาขาด
อนุสรณ์สถาน ช่องเขาขาด นั้นสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเชลยศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในอนุสรณ์สถาน เป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจะมีภาพบอกเล่าเรื่องราวความทุกข์ยากของเชลยสงครามในช่วงเวลานั้นๆ มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเก่าในการสร้างทางรถไฟ
7. สุสานทหารพันธมิตรดอนรัก
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต (ทางหลวงหมายเลข 323) ก่อนจะเข้าตัวเมืองกาญจนบุรีค่ะ สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากประเทศในเครือจักรภพมากกว่า 5,000 คนและจากฮอลันดา 1,800 คน ทุกวันนี้ ที่นี่คือเครื่องเตือนใจถึงสงคราม
8. แพริมน้ำ กาญจนบุรี
ที่สุดของการพักผ่อน ต้องยกให้ แพกาญจนบุรี ที่พักริมน้ำ บรรยากาศดี กิจกรรมแน่น ที่หลายคนไปสักครั้งต้องติดใจจนอยากไปหลายๆ ครั้งค่ะ นอกจากนี้ที่กาญจนบุรี มีแพริมน้ำ ให้เราเลือกพักได้หลายรูปแบบด้วยกัน มีตั้งแต่ชิลล์ๆ แบบเรียบง่ายไปถึง สวยอลัง ปลีกวิเวกไฮโซสุดๆ
9. เขาช้างเผือก
เขาช้างเผือก ที่เที่ยวสุดท้าทาย ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวขาลุย ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กาญจนบุรีนี่เองค่ะ เขาช้างเผือกจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยกันช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ และต้องติดต่อรับคิวในการขึ้นเขากับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เท่านั้น ไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ด้วยตัวเองค่ะ
10. น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกชื่อดังสีเขียวมรกตของกาญจนบุรี น้ำตกเอราวัณ นี้เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปชมความงดงามกันแบบไม่ขาดสายเลยทีเดียวค่ะ น้ำตกเอราวัณมีขนาดใหญ่ แบ่งเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงาม และมีแอ่งให้ลงเล่นน้ำได้
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ผ่านป่าดิบเขาให้สายเที่ยวแนวรักธรรมชาติได้ชื่นชมอีกด้วย แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นไกด์นำทางพาเดินป่านะคะ ถึงจะปลอดภัย
11. ลำคลองงู
ลำคลองงู ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ในจังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen ที่มีความงดงาม และมีกิจกรรมท้าทายความสามารถ ทั้งการเดินถ้ำชมเสาหินที่สูงที่สุดในโลก และเล่นเย็นฉ่ำกับน้ำตกท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ค่ะ
12. เขื่อนวชิราลงกรณ์
เขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นที่เที่ยวสวยอีกแห่งของอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีค่ะ มีความสวยงามของวิวทะเลสาบ และเงียบสงบ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นไปชมวิวบริเวณสันเขื่อนได้อีกด้วย ซึ่งเราจะได้เห็นภาพของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำสีเขียวมรกตอันสวยงามค่ะ
ที่นี่มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมายค่ะทั้ง ชมวิวบริเวณริมสันเขื่อน เล่นน้ำล่องแพ ดูนก ตกปลา หรือไปชมวิวที่ จุดชมวิวป้อมปี่
13. น้ำตกไทรโยคน้อย
น้ำตกไทรโยคน้อย หรือ น้ำตกเขาพัง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเมืองกาญจน์ค่ะ สูงประมาณ 15 เมตร เป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจ และลงเล่นน้ำ
14. น้ำตกไทรโยคใหญ่
สำหรับ น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยค่ะ ซึ่งจะแยกเป็น 2 แพร่ง ส่วนที่อยู่ทางตอนเหนือเรียกว่าน้ำตกไทรโยคใหญ่ ลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียว สูงประมาณ 8 เมตร โดยเราสามารถไปชมความงดงามของน้ำตกได้จากจุดชมวิวสะพานแขวนไทรโยค หรือล่องเรือชมไปชมน้ำตกใกล้ๆ ได้ค่ะ
15. น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ค่ะ เป็นน้ำตกสวยที่มีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี ซึ่งไหลผ่านหน้าผาสูง 30 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ด้านล่างค่ะ โดยชื่อ จ๊อกกระดิ่น นั้น เป็นภาษาพม่าที่มีความหมายว่า น้ำตกที่ไหลผ่านซอกหินผา และมีแหล่งกำเนิดเป็นน้ำผุด ที่มาจาก ภูเขาอีปู่ ค่ะ
แม้ว่าที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่น จะสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ก็มีช่วงแล้งที่น้ำจะน้อยค่ะ ถ้าใครอยากมาช่วงน้ำเยอะนั้น แนะนำให้มาช่วงปลายฝน และช่วงหน้าหนาวค่ะ ที่น้ำจะเย็น สดชื่น เล่นน้ำสนุกสุดๆ เลยค่ะ
16. ต้นจามจุรียักษ์
ต้นจามจุรียักษ์ หรือ ต้นก้ามปูยักษ์ เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่หลายคนมักไปในเมืองกาญจน์ ไฮไลท์ก็คือ ต้นจามจุรี นี่แหละค่ะ ที่มีความใหญ่โต และแผ่กิ่งก้านสาขาสวยงามร่มรื่น ต้นจามจุรียักษ์นี้มีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว ขนาดความใหญ่ประมาณ 10 คนโอบเลยทีเดียว ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่มากมายค่ะ
17. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นน้ำตกที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ค่ะ มีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน ตั้งแต่ชั้นแรกถึงชั้น 4 มีระยะทางแค่ 300-750 เมตรเท่านั้น แต่ชั้น 5 ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดของน้ำตก จะมีระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตรค่ะ แต่ละชั้นเลยมีความสวยงามในแบบที่ต่างกันไป และที่นี่ยังได้ชื่อว่า เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในกาญจนบุรีอีกด้วย
18. จุดชมวิวป้อมปี่
ไปชมธรรมชาติสวยๆ ป่า น้ำ เขา ที่ จุดชมวิวป้อมปี่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ค่ะ ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติสวยๆ และบริเวณโดยรอบจะเป็นอ่างเก็บน้ำที่ล้อมด้วยป่าไม้และภูเขา บรรยากาศดีมากๆ จนได้รับฉายาว่า "ปางอุ๋งของเมืองกาญจนบุรี" เลยทีเดียวค่ะ
19. น้ำตกผาสวรรค์
สายรักธรรมชาติ ชอบผจญภัย ต้องห้ามพลาดที่นี่เลยค่ะ! น้ำตกผาสวรรค์ ที่เที่ยวธรรมชาติสวยๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี หนึ่งในน้ำตกที่มีขนาดใหญ่กลางป่า รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และเหมาะสำหรับสายลุยค่ะ เพราะการเข้าไปชมความสวยงามของน้ำตกนั้น ต้องลุยป่าเข้าไป และใช้รถโฟร์วีลเท่านั้นค่ะ เส้นทางจะค่อนข้างลำบากมากๆ แต่ความสวยงามตรงหน้าบอกเลยว่า ประทับใจสุดๆ
20. เขื่อนท่าทุ่งนา
ไปนอนชมวิวธรรมชาติสวยๆ กันที่ เขื่อนท่าทุ่งนา ที่เที่ยวกาญจนบุรี ที่เรียกได้ว่า วิวอลังการสุดๆ ค่ะ โดยที่นี่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนศรีนครินทร์เท่าไหร่ บรรยากาศดี มีภูเขาสีเขียวรอบล้อม เป็นอีกที่เที่ยวสูดอากาศดีๆ วิวชมสวย ถ่ายรูปชิลๆ นั่นเอง
21. น้ำตกไดช่องถ่อง
เอาใจคนรักน้ำตกกันต่อที่ น้ำตกไดช่องถ่อง อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่นี่เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลาง คล้ายกับน้ำตกเกริงกระเวีย แต่มีขนาดใหญ่กว่าและสูงกว่าค่ะ แต่เราจะได้เห็นความสวยงามของม่านน้ำตกแห่งนี้ในช่วงหน้าฝนเท่านั้นนะคะ เพราะถ้ามาในฤดูแล้ง ที่นี่จะมีน้ำน้อยไม่สวยงามเท่าไหร่ค่ะ
22. ถ้ำธารลอด
นอกจากน้ำตกแล้ว ที่กาญจนบุรี ก็มีถ้ำสวยๆ ไม่แพ้กัน ตามเราไปเที่ยว ถ้ำธารลอด ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ที่นี่เกิดจากการยุบตัวของหินปูน และการกัดเซาะของน้ำ ทำให้เขาหินปูนกลายสภาพเป็นสะพานธรรมชาติขนาดใหญ่นั่นเอง และมีธารน้ำไหลลอดอยู่ใต้ถ้ำ ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆ แปลกตา สวยงามระยิบระยับเวลาส่องไฟค่ะ สายลุย สายชอบการเที่ยวแบบผจญภัย พลาดไม่ได้แล้วจ้า
23. เมืองมัลลิกา รศ.124
เมืองมัลลิกา รศ.124 เป็นเมืองย้อนยุค โดยที่จะพาเราย้อนเวลากลับไปยังสมัย ร.5 ค่ะ ภายในมีการจำลองวิถีชีวิตแบบโบราณ ลักษณะความเป็นอยู่ของชาวสยามในอดีต ทั้งบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ริมทุ่งนา เรือนไม้ที่มีศาลาริมน้ำ รวมถึงการเดินทางด้วยเรือของพ่อค้าแม่ค้าที่แต่งชุดไทยมาขายอาหารไทย ขนมไทย ผลไม้ต่างๆ
นอกจากนี้ที่เมืองมัลลิกายังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย รวมถึงมีชุดไทยให้เช่า ให้เราไดเดินใส่ชุดไทยสวยๆ เที่ยวไปรอบๆ ได้อีกด้วย เข้ากับบรรยากาศไทยๆ แบบสุดๆ เลยล่ะค่ะ ใครอยากลองใส่ชุดไทยสวยๆ แล้วล่ะก็ มาเที่ยวที่นี่ได้จ้า
24. สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์
บ่อพลอย
ใครที่อยากสัมผัสชีวิตสัตว์ป่าแบบใกล้ชิด ให้นมลูกเสือ ป้อนอาหารยีราฟ ต้องไปที่นี่ค่ะ สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ บ่อพลอย เป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกในจังหวัดกาญจนบุรี ยังเป็นสถานีอนุรักษ์ขยายพันธุ์สัตว์นานาชนิด เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตสัตว์นานาชนิด เช่น ยีราฟ ช้าง ม้าลาย อูฐ เสือโคร่ง สิงโต เสือดาว หมีควาย ลามา นกกระจอกเทศ กวางชนิดต่างๆ ฯลฯ
และไฮไลท์ของที่นี่จะได้สัมผัสกับสัตว์นานาชนิดอย่างใกล้ชิดแห่งเดียวในโลก สามารถกอดคอยีราฟถ่ายรูปได้เลย รวมไปถึงการแสดงโชว์ต่างๆ จากสัตว์น้อยน่ารักแสนรู้ให้ชมอีกด้วยค่ะ
25. หมู่บ้านมอญ ท่าเสา
ชุมชนมอญ ไทรโยค หรือ ชุมชนมอญ ท่าเสา นี้ตั้งอยู่ด้านข้างของที่พักแพ ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ ก่อนถึงหมู่บ้านมอญ จะมี ผาเอน จุดนี้เป็นถ้ำพระเล็กๆ ซึ่งจะมีพระมอญมาธุดงค์ นั่งสมาธิค่ะ
ภายในหมู่บ้านจะมีบ้านเรือนของคนในชุมชน มีโรงเรียนให้เด็กๆ ได้มาเรียนภาษามอญกัน นอกเหนือจากภาษาไทยที่ไปเรียนกันตามปกติในโรงเรียนอยู่แล้ว เดินมาอีกหน่อยก็จะมี วัดมอญ ด้วยค่ะ ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ตามปกติ เราสามารถทำบุญไหว้พระได้ และบริเวณใกล้ๆ วัดมอญ เราจะได้เจอกับ เจดีย์ชเวดากององค์จำลอง ซึ่งหันหน้าไปทางเมืองหงสาวดี ประเทศเมียนมา
26. สังขละบุรี
พูดถึงกาญจนบุรี เมื่อไหร่ ก็ต้องนึกถึง สังขละบุรี ขึ้นมาด้วยทุกครั้ง หมู่บ้านน่ารัก ชุมชนมอญเล็กๆ ใกล้ชายแดนเพื่อนบ้านประเทศเมียนมา ที่ได้ไปสักครั้งต้องหลงเสน่ห์ในความเรียบง่าย และเงียบสงบค่ะ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีกิจกรรมดีๆ ให้ทำเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการตักบาตรบนสะพานมอญ เดินถ่ายรูปเล่น หรือ ล่องเรือไปชมน้ำจมน้ำ รวมไปถึงเที่ยวเจดีย์พุทธคยา หรือข้ามไปฝั่งเมียนมา ที่ด่านเจดีย์สามองค์ อีกด้วย
27. สะพานมอญ สังขละบุรี
ไปชิลเดินเล่น สะพานมอญ สังขละบุรี หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ ที่เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยมีความยาวถึง 445 เมตรกันดูค่ะ ที่นี่สร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ.2529 เพื่อใช้เป็นสะพานสำหรับสัญจรไปมาของชาวมอญ และชาวไทย โดยเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังศรัทธาต่อหลวงพ่ออุตตมะ เป็นสะพานมิตรภาพของชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปสวยมากๆ ของสังขละบุรีอีกด้วยค่ะ
28. บ้านอีต่อง ปิล็อก
หมู่บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ ที่นี่เคยเป็นดินแดนแห่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรือง แต่ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่น่าไปเช็คอินมากๆ ที่กาญจนบุรีค่ะ ด้วยอากาศดีๆ ธรรมชาติอินบริสุทธิ์ รวมถึงมีเกสเฮ้าส์ในหมู่บ้านให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสวิถีชีวิตของคนไทยและเมียนมาที่อยู่ร่วมกันในหมู่บ้าน ต้องมาสักครั้ง
29. บ้านปากแพรก
บ้านปากแพรก เป็นหนึ่งในชุมชนบ้านเรือนที่สวยงามสไตล์ชิโนโปตุกีสในจังหวัดกาญจนบุรีค่ะ เป็นเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 177 ปีแล้ว ชุมชนนี้มีความใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างมากเลยทีเดียว เพราะเป็นจุดที่ทหารญี่ปุ่นเข้ามาเช่าตึกแถวเพื่อทำการค้าในช่วงสงครามนั่นเอง
Cr.travel.trueid.net