วัสดุที่ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาที่ค่อนหลากหลายมีทั้งราคาไม่แพงไปจนถึงเกรดคุณภาพดีๆราคาแพงให้เลือกใช้
อะลูมิเนียมที่ใช้ทำประตูหน้าต่างมี 2 ประเภท คือ
-อลูมิเนียมชุบสีด้วยไฟฟ้า (Anodizing) มี 3 สีหลักๆคือ สีชาอ่อน สีชาเข้ม และสีดำ อีกประเภทคือ
-อลูมิเนียมพ่นอบสี (Powder Coating) เป็นการพ่นและอบผงสีเคลือบบนพื้นผิว
- สามารถทนความร้อนของแสงแดดได้ดี
- ทนต่อความชื้นและไม่เป็นสนิม
- มีสีให้เลือกมากมาย ราคาไม่สูงจนเกินไป และสามารถสั่งทำในรูปแบบตามขนาดที่ต้องการ
คือ กระจกโปร่งแสงและไม่มีสี สามารถมองผ่านได้อย่างชัดเจน สามารถมองเห็นจากภายนอกเข้ามาภายในได้ กระจกชนิดนี้จะดูดกลืนความร้อนได้น้อยมากจึงทำให้ผิวกระจกไม่ร้อนเมื่อต้องอยู่กลางแสงแดดหรือในอุณหภูมิสูงระหว่างวัน
คุณสมบัติเด่น - สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก จึงเหมาะกับการใช้งานประเภทแสดงสินค้า
ความใสและโปร่งแสงของกระจกอาจทำให้การใช้งานจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถติดตั้งม่านหรือติดฟิล์มเพื่อความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมได้
เป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่ง ประกอบไปด้วยกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไปเช่นกัน และชั้นกลางเป็นฟิล์มนิรภัย มาประกบหรือติดด้วย PVB (Poly Vinyl Butyral) ทำให้กระจกจะติดกับ PVB ไม่ร่วงหล่นจากกรอบ
- เมื่อกระจกแตกชิ้นส่วนจะไม่หลุดออกจากฟิล์ม ทำให้มีความปลอดภัย
- ฟิล์มตรงกลางยังสามารถกรองแสงและกันรังสียูวีได้ถึง 95%
- ช่วยป้องกันเสียงรบกวนภายนอก และเก็บเสียงได้ดีกว่ากระจกธรรมดา
- ทนต่อแรงดันลมในที่สูง ทนต่อแรงอัดกระแทกและช่วยป้องกันการบุกรุก
กระจกชนิดนี้จะผ่านวิธีการอบด้วยความร้อนสูง การแตกของกระจกเทมเปอร์ จะแตกกระจายออกเป็นเม็ดเล็กๆคล้ายเม็ดข้าวโพด และมีความคมน้อย จึงค่อนข้างปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุ
คล้ายกับกระจกลามิเนต แตกต่างกันที่ไม่มีฟิล์มกั้นตรงกลาง มักเห็นการใช้กระจกเทมเปอร์ เป็นประตูบานเปลือย ฉากกั้นอาบน้ำ ผนังกั้นภายใน ผนังกระจก
- สามารถทนทานต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบฉับพลันได้
- สามารถทนต่อแรงกระทบได้มากกว่ากระจกธรรมดา
กระจกฉนวนความร้อน (Insulating Glass Units) เป็นกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไปมาประกบกัน มีช่องว่างระหว่างกลาง (Air gap) โดยมี Aluminium Spacer ซึ่งบรรจุสารดูดความชื้นแล้วใส่ฉนวน
คุณสมบัติเด่น
- เก็บรักษาอุณภูมิภายในได้ดีมาก
- สามารถสะท้อนความร้อนได้ประมาณ 95%-98%
- ไม่ทำให้เกิดฝ้าหรือหยดน้ำ แม้ว่าอุณหภูมิภายในกับภายนอกแตกต่างกันมาก
กระจกชนิดนี้จะถูกเคลือบสารโลหะอื่นๆ โลหะแต่ละชนิดจะให้สีสะท้อนตามคุณสมบัติเฉพาะของโลหะแต่ละตัว ซึ่งสารเคลือบเหล่านี้จะให้แสงผ่านได้มาก แต่ความร้อนผ่านได้น้อย
ส่วนมากจะเป็นสีเขียวและสีฟ้า ซึ่งสีแต่ละแบบก็จะให้คุณสมบัติการการใช้งาน
กระจกเขียว - แสงสว่างส่องผ่านได้มากถึง 75% แต่กลับให้ความร้อนผ่านได้แค่ 49% เท่านั้น จึงช่วยให้ได้ทั้งความเย็น และความสว่างปลอดโปร่งไปพร้อมกัน
กระจกสีฟ้า – เป็นกระจกตัดแสงที่ดีขึ้นมาอีกระดับ โดยความร้อนจะผ่านได้เพียง 43% และเปิดรับแสงธรรมชาติอย่างพอเหมาะที่ 58%
กระจกสีชา – ความร้อนผ่านได้น้อยสุดคือ 34% แต่ยอมให้แสงสว่างผ่านได้น้อยแค่ 22% จึงอาจสร้างบรรยากาศที่มืดทึบให้บ้านได้
กระจกสีเทา – เริ่มนิยมใช้กันมาก (กระจกยูโรเกรย์ Eurogrey) สีเทาให้ธีมสีที่ดูเรียบหรู ตัวบ้านดูทันสมัยกว่ากระจกสีอื่นๆ กระจกชนิดนี้ก็ยังมีคุณสมบัติคล้ายกับกระจกเขียวตัดแสงแต่จะให้แสงผ่านได้น้อยกว่า ทำให้ภายในบ้านมืดทึบกว่า กระจกตัวนี้จึงเหมาะสำหรับกับพื้นที่ที่เน้นการใช้ที่ป้องกันแสงแดด
- สามารถป้องกันรังสี UV
- สะท้อนพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ ที่ส่องมากระทบผิวกระจก ได้สูงถึง 50%
- ช่วยประหยัดพลังงานโดยช่วยลดภาระการใช้เครื่องปรับอากาศภายในบ้านลง ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้
กระจกที่มีค่าการถ่ายเทความร้อนต่ำ กระจก Low-E จะมีการเคลือบผิวกระจกด้วยสารเงิน (Silver) บางๆ โดยสารที่เคลือบกระจกจะถูกออกแบบให้สะท้อนพลังงานความร้อนออกไปแต่ยังคงให้แสงสว่างผ่านเข้ามาได้มาก
- แผ่รังสีความร้อนต่ำกว่ากระจกธรรมดา
- ช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนเข้ามาภายในอาคารได้เป็นอย่างดี
- ช่วยลดปริมาณเสียงภายในและเสียงเข้าตัวอาคารได้
การใช้งานจึงเหมาะกับคอนโดมิเนียมที่ต้องการเห็นวิวแบบเต็มๆ หรือในห้องที่หันออกในทิศทางที่ได้รับแสงแดดเป็นพิเศษ
สอบถามราคาประตูกระจกบานเลื่อน...
โทรด่วนหาช่างประตูกระจกบานเลื่อน...

